พลังงานชีวมวล (Biomass) ในสเปน

พลังงานชีวมวล (Biomass) ในสเปน

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ม.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 13 ม.ค. 2565

| 2,886 view

shutterstock_1509417272

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและอุณหภูมิของโลก เป็นประเด็นใหญ่ที่รัฐบาลสเปนให้ความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน โดยภายใต้แผนบูรณาการพลังงานและภูมิอากาศแห่งชาติปี ค.ศ. 2021-2030 (Plan Nacional Integrado de Energía y Clima 2021-2030 - PNIEC) สเปนได้กำหนดเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทน ให้ได้ร้อยละ 74 ของการผลิตพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด และกำหนดสัดส่วนของการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ถึงร้อยละ 42 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายในประเทศ (Final energy consumption) ภายในปี ค.ศ. 2030 ทั้งนี้ เพื่อให้สเปนบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ให้ได้ร้อยละ 90 ภายในปี ค.ศ. 2050 เมื่อเทียบกับระดับการปล่อยก๊าซเมื่อปี ค.ศ. 1990  

วันนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด จะขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับการพัฒนาพลังงานชีวมวลของสเปน ซึ่งเป็นอีกแหล่งพลังงานทดแทนหนึ่งที่สำคัญของสเปน และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่รัฐบาลสเปนให้ความสำคัญในปัจจุบัน   

 

สถานการณ์พลังงานชีวมวลในสเปน

สเปนเป็นประเทศหนึ่งที่มีทรัพยากรและวัตถุดิบชีวมวลอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นพืชผลทางการเกษตร ป่าไม้ ปศุสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร และขยะจากชุมชน โดยปัจจุบันสเปนมีการใช้ทรัพยากรชีวมวลจากป่าไม้มากเป็นอันดับ 3 ของยุโรป และเป็นประเทศที่มีทรัพยากรชีวมวลจากป่าไม้ต่อจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของยุโรป

ทั้งนี้ ภายในประเทศ สเปนมีการใช้พลังงานชีวมวลถึงร้อยละ 45 ของพลังงานทดแทนทุกประเภทที่ผลิตได้ หรือเทียบเท่าร้อยละ 2.9 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศ (ทั้งพลังงานทดแทน + พลังงาน   ชนิดดั้งเดิม) โดยแคว้นที่มีการใช้พลังงานชีวมวลมากที่สุด ได้แก่ อันดาลูเซีย กาสตียา อี เลออน และกาลิเซียตามลำดับ โดยเฉพาะแคว้นอันดาลูเซีย นอกจากจะเป็นแคว้นที่ใช้พลังงานชีวมวลมากที่สุด (518,000 toe) ในสเปนแล้ว ยังเป็นแคว้นที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวลได้มากที่สุด ถึงร้อยละ 40 ของประเทศด้วย เนื่องจากมีอุตสาหกรรมการเกษตร/พื้นที่เกษตรขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากที่เป็นปัจจัยสนับสนุน (แคว้นอันดาลูเซียมีโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลรวม 18 แห่ง ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 208.70 เมกะวัตต์)

นอกจากนี้ ในส่วนของเครือข่ายความร้อนจากพลังงานชีวมวล (heat networks) พบว่า สเปนมีการติดตั้งเครือข่ายความร้อนจากพลังงานชีวมวลทั้งหมด 433 เครือข่าย (สถิติปี ค.ศ. 2020) โดยมีเครือข่ายฯ ที่สำคัญ อาทิ 1) ที่เมืองมอสโตเลส (แคว้นมาดริด) ติดตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 เพื่อให้บริการเครื่องทำความร้อนและผลิตน้ำร้อน แทนการใช้ก๊าซธรรมชาติหรือ gasoil (ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ) ให้แก่ 3,522 ครัวเรือน (ดำเนินการโดยบริษัท Veolia Spain) ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ถึงร้อยละ 20 และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้ถึง 9,000 ตัน/ปี และคาดว่าภายใน 7 ปีข้างหน้า จะสามารถขยายเครือข่ายฯ ให้ครอบคลุมได้ถึง 6,500 ครัวเรือน และ 2) ที่จังหวัดซอเรีย ซึ่งเป็นโครงการที่มีการเดินท่อส่งพลังงานยาวที่สุดในสเปนถึง 28 กิโลเมตร เพื่อส่งพลังงานความร้อนสำหรับเครื่องทำความร้อนและผลิตน้ำร้อนให้แก่ประชากรจังหวัดซอเรีย ได้กว่า 10,000 คน มาตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2015

นอกจากนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ค่าไฟฟ้าและเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellets) กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ครัวเรือนในสเปนต่างนิยมหันมาใช้เพื่อทำความร้อนในบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสมาคมพลังงานชีวมวลสเปน (AVEBIOM) พบว่า การใช้พลังงานชีวมวลในการทำความร้อนจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ถึง 1,000 ยูโร/ปี เมื่อเปรียบเทียบกับพลังงานฟอสซิล

ส่วนในระดับภูมิภาคยุโรป ตามข้อมูลจาก Solid Biofuels Barometer 2020 จัดทำโดย EurObserv'ER ในปี ค.ศ. 2019 สเปนเป็นผู้ผลิตพลังงานปฐมภูมิจากแหล่งเชื้อเพลิงชีวมวลชนิดของแข็ง (solid biofuels) มากเป็นอันดับ 8 ในสหภาพยุโรป (ปริมาณ 5,528 ล้านตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (Mtoe)) และเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารวม (gross electricity) จากแหล่งเชื้อเพลิงชีวมวลชนิดของแข็งมากเป็นอันดับ 8 ด้วยเช่นกัน (ปริมาณ 3,885 เทระวัตต์-ชั่วโมง (TWh)) อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าว ระบุว่า สเปนยังคงใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ การเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อน ชีวมวลไบโอมีเทนในปริมาณที่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศยุโรปอื่น ๆ โดยในปี ค.ศ. 2019 สเปนใช้พลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงชีวมวลชนิดของแข็งอยู่ที่ 0.118 ตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (toe) ต่อประชากร 1 คนเท่านั้น (อันดับ 23 จากสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ)

อย่างไรก็ดี แม้ว่าสัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพลังงานชีวมวลในสเปนยังมีน้อย แต่สเปนก็ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาดังกล่าวในกรอบสหภาพยุโรป ภายใต้โครงการที่มีชื่อว่า Promobiomasse (https://promobiomasse.eu/) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสเปน โปรตุเกสและฝรั่งเศส เพื่อส่งเสริมตลาดพลังงานชีวมวลในระดับท้องถิ่นโดยใช้วัตถุดิบจากป่าไม้ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป เริ่มดำเนินโครงการเมื่อปี ค.ศ. 2018 จนถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 2021

 

บริษัทสเปนที่เชี่ยวชาญเรื่องพลังงานชีวมวล

          ภาคเอกชนในสเปนที่เชี่ยวชาญเรื่องพลังงานชีวมวล ประกอบด้วย  

          - ENCE Energía & Celulosa (https://ence.es/) เป็นบริษัทสเปนแห่งแรกที่ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลจากป่าไม้และพืชผลทางการเกษตร โดยมีโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล 8 แห่งในประเทศ โดยมีโรงงานฯ ใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งอยู่ที่จังหวัดอูเอลบา แคว้นอันดาลูเซีย และยังเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปด้วย   

          - REBI (https://recursosdelabiomasa.es/) เป็นบริษัทสเปนชั้นนำในด้านการส่งเสริม ออกแบบและ การใช้เครือข่ายความร้อน (heat networks) จากพลังงานชีวมวล บริษัทฯ อยู่ภายใต้เครือ GRUPO AMATEX BIE ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมไม้รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสเปน บริษัท REBI มีผลงานที่สำคัญ อาทิ เครือข่ายความร้อนที่จังหวัดซอเรีย Soria (Red de calor de Soria) ซึ่งได้กล่าวถึงไปแล้วข้างต้น

          - Repsol (https://www.repsol.com) เป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในสเปน ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานหลายประเภทและมีการส่งออกไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ บริษัทฯ เป็นผู้นำการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพของสเปนในหลายรูปแบบ อาทิ การผลิตก๊าซจากขยะชุมชน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการวิจัยและพัฒนาการผลิตน้ำมันอากาศยานที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2021 เที่ยวบินของสายการบิน Iberia ที่ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (จากขยะของเสียที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมัน    บริษัท Petronor ในสเปน) ของบริษัท Repsol สามารถทำการบินจากกรุงมาดริดไปยังเมืองบิลเบาได้สำเร็จเป็นเที่ยวบินแรก

ปัจจุบัน บริษัทสเปนในธุรกิจพลังงานชีวมวลยังได้มีการรวมกลุ่มกันเป็นคลัสเตอร์/กลุ่มธุรกิจต่างๆ ด้วย อาทิ สมาคมพลังงานชีวมวลสเปน (Asociación Española de la Biomasa - AVEBIOM) คลัสเตอร์พลังงานชีวภาพแห่งแคว้นคาตาโลเนีย (Clúster Bioenergía Catalunya) และคลัสเตอร์พลังงานชีวมวลแห่งแคว้นกาลิเซีย (Clúster de la biomasa de Galicia) อีกทั้งยังมีองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรชื่อดังอย่าง Bioplat ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการพัฒนาด้านชีวมวลและเศรษฐกิจชีวภาพในสเปนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีความก้าวหน้าด้านพลังงานชีวมวล รวมถึงพลังงานทดแทนในรูปแบบอื่นๆ ในสเปน อาจพิจารณาเข้าร่วมงาน GENERA 2022 ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมเอานวัตกรรมความทันสมัยในด้านพลังงานทดแทนจากภาคส่วนต่างๆ ของสเปนมาจัดแสดงในที่เดียวกัน โดยในปีนี้ มีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน ค.ศ. 2022 ณ กรุงมาดริด ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ifema.es/genera

 

ติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่ https://bic-madrid.thaiembassy.org

 

*****************************