บริษัท Iberdrola กับพลังงานหมุนเวียน

บริษัท Iberdrola กับพลังงานหมุนเวียน

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 ธ.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 11 ธ.ค. 2562

| 3,388 view

หลังจากที่ชิลีได้ประกาศยกเลิกจัดการประชุมภาคีสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 25 หรือ COP 25 ที่กรุงซันติอาโก เนื่องจากเหตุประท้วงภายในประเทศ สเปนก็อาสาจัดงานประชุมดังกล่าว ณ กรุงมาดริดระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม ค.ศ. 2019 แทน

ในวันนี้ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สังกัดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริดจะถือโอกาสพาผู้อ่านไปรู้จักนโยบายของสเปนเกี่ยวกับการรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และบริษัทพลังงานสะอาดชั้นนำของสเปนที่ชื่อ Iberdrola

สเปนเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนมากที่สุด โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมการเกษตรเนื่องจากเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของยุโรป การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งนโยบายหลักของรัฐบาลสเปน

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีสเปนเพิ่งอนุมัติร่างแผนบูรณาการพลังงานและภูมิอากาศแห่งชาติปี ค.ศ. 2021-2030 (Plan Nacional Integrado de Energía y Clima 2021-2030 หรือ PNIEC) และได้เสนอแผนนี้ไปยังคณะกรรมาธิการยุโรป ในแผนดังกล่าวได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่าปี ค.ศ. 2030 ร้อยละ 42 ของพลังงานที่ใช้ในสเปนต้องผลิตมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ร้อยละ 74 ของการผลิตพลังงานไฟฟ้าต้องมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน และคาดว่าหากปฏิบัติตามแผนนี้จะเพิ่มช่วยประสิทธิภาพพลังงานถึงร้อยละ 39.6 และในขณะเดียวกันแผนนี้ก็เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยคาดว่าจะสร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ภายในปี ค.ศ. 2030

นอกจากนี้ รัฐบาลสเปนได้จัดทำร่างแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม (Estrategia de Transición Justa) ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงรับฟังความคิดเห็น เป็นส่วนหนึ่งของแผน PNIEC และร่างกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Ley de Cambio Climático) มีสาระสำคัญคือต้องการใช้ประเด็นเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านสิ่งแวดล้อม (Transición ecológica) ให้เป็นประโยชน์ต่อการสร้างและพัฒนาตำแหน่งงาน รวมทั้งสร้างความเป็นธรรมต่อลูกจ้างและเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

“การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม” เป็นนโยบายหลักของสเปนที่ได้มีการนำเสนอในการประชุม COP 24 ที่ประเทศโปแลนด์ โดยนายกรัฐมนตรีสเปนในขณะนั้น ได้ให้จัดทำพันธะสัญญาและลงนามในปฏิญญาซิเลเซียว่าด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม ซึ่งการที่สเปนอาสารับเป็นสถานที่จัดงานประชุมสุดยอด COP 25 ครั้งนี้ ก็เป็นการเน้นย้ำความสำคัญและท่าทีของรัฐบาลเรื่องการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

พลังงานหมุนเวียนเป็นหนึ่งมาตรการสำคัญในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสเปน และเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสเปนเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านพลังงานหมุนเวียนที่หลากหลาย หากเจาะลึกเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell หรือ Solar Photovoltaics) สเปนมีจำนวนการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์มากเป็นอันดับที่ 5 ของยุโรป รวม 5.6 กิกะวัตต์หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.9 ของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ (Solar Thermal Electricity: STE) มากที่สุดในโลก รวม 2.87 กิกะวัตต์ และที่สำคัญร้อยละ 78 ของโครงการผลิตไฟฟ้าความร้อนจากแสงอาทิตย์ของโลกดำเนินการโดยบริษัทสเปน ทั้งนี้ บริษัทสเปนผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานในต่างประเทศ อาทิ บริษัท Isolux Corsán บริษัท Abengoa บริษัท Grupo Cobra บริษัท Acciona Energía บริษัท Iberdrola บริษัท Elecnor บริษัท Grupo Ortiz และบริษัท Tsk

วันนี้ เรามาทำความรู้จักกับบริษัท Iberdrola หนึ่งในบริษัทสเปนที่มีชื่อเสียงในสาขาพลังงานหมุนเวียนและได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการด้านความยั่งยืนและรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการประชุมสุดยอด COP ในปีก่อน ๆ[1]

Iberdrola S.A. ทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าทั้งในสเปนและต่างประเทศ (อาทิ สหรัฐ สหราชอาณาจักร บราซิล เม็กซิโก เป็นต้น) เป็นบริษัทที่มีความสำคัญระดับโลก โดยมีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตพลังงานลมอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย ปัจจุบัน มีสินทรัพย์มากกว่า 113,000 ล้าน ยูโร โดยในปี 2018 มีผลประกอบการ 35,075.9 ล้านยูโร (ขยายตัวร้อยละ 12.2 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2017) เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ประชากรกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก เป็นแหล่งจ้างงาน 34,000 ตำแหน่ง และสร้างงาน 425,000 ตำแหน่งเมื่อนับรวมตำแหน่งงานทางตรง ทางอ้อมและธุรกิจปลายน้ำ (เว็บไซต์ https://www.iberdrola.com/)

Iberdrola เป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน โดยมุ่งสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน Smart network เพื่อการจัดเก็บพลังงานเป็นจำนวนมาก และการปรับเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และสินค้าที่ใช้พลังงานสะอาด ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยที่สุดและมีชื่อเสียงในระดับโลกเรื่องการมีส่วนร่วมในการดำเนินการด้านความยั่งยืนและรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนร้อยละ 50 ในปี ค.ศ. 2030 เมื่อเปรียบเทียบกับระดับก๊าซคาร์บอนเมื่อปี ค.ศ. 2007 และต้องการมีค่าความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050

ด้านธุรกิจ Iberdrola แบ่งสาขาธุรกิจออกเป็น 3 สาขาใหญ่ได้เป็น 1) พลังงานหมุนเวียน 2) ธุรกิจเครือข่ายกระแสไฟฟ้า และ 3) ธุรกิจขายส่งและขายปลีกพลังงานไฟฟ้า โดยหากเจาะลึกในส่วนของพลังงานหมุนเวียน Iberdrola เป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด โดยมีบริษัท Iberdrola Renovables Energía บริษัท ScottishPower Renewable Energy บริษัท Avangrid Renewables และบริษัท Iberdrola Renovables México เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจากหลายแหล่ง ทั้งพลังงานลมบนแผ่นดิน พลังงานลมจากทะเล พลังงานน้ำ พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ พลังงานเซลล์แสงอาทิตย์และพลังงานชีวภาพ เป็นต้น

การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหนึ่งนโยบายสำคัญของบริษัทในการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทได้เข้าไปมีบทบาทในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์หลายแห่ง เช่น โรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ Santiago ที่รัฐ San Luis Potosí ประเทศเม็กซิโก ที่มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 170 เมกะวัตต์ หรือโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ Hermosillo ขนาด 100 เมกะวัตต์ที่รัฐ Sonora เม็กซิโก ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งนี้เพิ่งเริ่มใช้งานไปเมื่อปี ค.ศ. 2018 แต่ความมุ่งมั่นและความพยายามของบริษัทไม่หยุดเพียงแค่นี้ ปัจจุบันบริษัทกำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ Núñez de Balboa ขนาด 500 เมกะวัตต์ ที่จังหวัด Badajoz ทางทิศตะวันตกของสเปน นับเป็นโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีกำหนดเริ่มใช้งานในปี ค.ศ. 2020

ล่าสุดในปี ค.ศ. 2019 บริษัทเปิดเผยว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ Francisco Pizarro ขนาด 590 เมกะวัตต์ ณ จังหวัด Cáceres ทางทิศตะวันตกของสเปน บนพื้นที่กว่า 1,300 เฮกเตอร์ ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านยูโรที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป (EIB) และสถาบันเครดิตสเปน (Instituto de Crédito Oficial - ICO) ซึ่งเมื่อโครงการ Francisco Pizarro สร้างแล้วเสร็จจะกลายเป็นโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและเป็นโครงการโรงไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดที่บริษัทดำเนินการมา คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในปี ค.ศ. 2022 โดยจะสามารถผลิตและจัดจำหน่ายพลังงานสะอาดให้แก่ประชากรกว่า 3.75 แสนคน/ปี รวมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศได้กว่า 2.45 แสนตัน/ปี อันเป็นการเน้นย้ำบทบาทและพันธสัญญาของบริษัทในการรักษาสภาพแวดล้อมและลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในสเปน Iberdrola มีกำลังผลิตติดตั้งจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนกว่า 15,790 เมกะวัตต์ (5,770 เมกะวัตต์มาจากแหล่งพลังงานลม) และ 30,000 เมกะวัตต์ทั่วโลก บริษัทให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและมุ่งมั่นต่อ Decarbonization of economy โดยที่ผ่านมาบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในยุโรปได้ร้อยละ 75 จากระดับเมื่อปี ค.ศ. 2000

บริษัท Iberdrola สนใจเข้ามาลงทุนและทำธุรกิจในไทยเนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของไทย โดยผู้แทนของบริษัทได้เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อศึกษาเจาะลึกลู่ทางการค้าในไทย โดยเข้าร่วมชมงานแสดงสินค้าด้านพลังงานทดแทนเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลไทยเอง คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ก็เพิ่งมีมติให้มีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์ภาคประชาชนปีละ 100 เมกะวัตต์ เริ่มปี ค.ศ. 2019 และต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลา 10 ปี การใช้เทคโนโลยีของบริษัทชั้นนำ Iberdrola ในการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และอาจช่วยให้ไทยมีศักยภาพในการผลิตและใช้พลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้นและในขณะเดียวกันก็เป็นมาตรการรักษาสภาพแวดล้อมและลดปัญหาโลกร้อนของประเทศได้

การนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้เกิดประโยชน์จึงเป็นหนึ่งตัวอย่างของการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในแบบของสเปน สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยีเรื่องพลังงานทดแทน สเปนจะจัดงานแสดงสินค้า GENERA 2020 Energy and Environment International Trade Fair ครั้งถัดไปในวันที่ 5-7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ณ กรุงมาดริด ภายใต้สโลแกน “INTEGRATING ENERGIES FOR A SUSTAINABLE FUTURE” (https://www.ifema.es/en/genera)

สามารถติดตามข่าวสาร สาระดี ๆ และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย สังกัดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด http://www.thaiembassy.org/bic.madrid/

 

ที่มาของภาพ

  • https://www.iberdrola.com/
  • https://www.miteco.gob.es/es/


[1] บริษัท Iberdrola ได้มีส่วนร่วมในการประชุม COP หลายครั้ง โดยในงาน COP 24 ณ ประเทศโปแลนด์ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมการเสวนาทาลานัว (Talanoa Dialogue) และมีส่วนร่วมในโครงการ Moving for Climate NOW ซึ่งเป็นโครงการขี่จักรยานไฟฟ้ารณรงค์ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยร่วมกับ UN Global Compact Network Spain เริ่มเส้นทางที่กรุงเวียนนา (ออสเตรีย) และสิ้นสุดที่เมืองคาโตไวซ์ ประเทศโปแลนด์  รวมระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร