ระยะหลังมานี้ธุรกิจสตาร์ทอัพในสเปนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และถ้าจะให้ยกตัวอย่างธุรกิจสตาร์ทอัพสัญชาติสเปน ก็คงจะหนีไม่พ้นบริษัท Cabify ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นและบริษัท Glovo บริการสั่งอาหารและสินค้าเดลิเวอรี่ เพราะว่าสองธุรกิจนี้ได้ก้าวเป็น Unicorn (ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ผงาดโลดแล่นในเวทีโลกไปเรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลจาก EIPE Business School ระบุว่าลักษณะของธุรกิจสตาร์ทอัพสเปนในปี ค.ศ. 2019 ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจด้านสุขภาพ ธุรกิจ e-commerce การบริการทางด้านการผลิตธุรกิจ (Business & Productivity Services) การท่องเที่ยว เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ธุรกิจรับผิดชอบต่อสังคม (Social Impact) เทคโนโลยีทางการศึกษา (EdTech) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีทางเกษตร (AgriTech) และความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย (ร้อยละ 81) อายุประมาณ 34 ปี จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย (ร้อยละ 92) โดยส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาโท (ร้อยละ 74)

ในส่วนของแหล่งเงินทุน สตาร์ทอัพสเปนร้อยละ 51 ใช้เงินทุนตนเองในการดำเนินธุรกิจ รองลงมาคือจากแหล่งเงินทุน 3F (Family, friends and fools) เงินทุนเอกชน เงินกู้ธนาคาร และทุน Crowdfunding  (ร้อยละ 26 ร้อยละ 19 ร้อยละ 3 และร้อยละ 2 ตามลำดับ) ซึ่งแหล่งเงินทุนจากภาคเอกชนที่น่าสนใจอันหนึ่ง คือ มูลนิธิ Fundación Repsol (Repsol ซึ่งเป็นของบริษัทพลังงานสัญชาติสเปนที่สำคัญรายหนึ่งของโลก)

มูลนิธิ Fundación Repsol ประกาศให้เงินทุนแก่สตาร์ทอัพด้านอุตสาหกรรมพลังงาน การสัญจรและเศรษฐกิจหมุนเวียนขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ภายใต้โครงการ STARTUP ACCELERATOR PROGRAM เพื่อช่วยเหลือกลุ่มสตาร์ทอัพที่อยู่ในขั้นตอนพัฒนาก่อนเป็นเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ (pre-commercial stage) ให้สามารถเข้าถึงโซลูชั่นเทคโนโลยีก่อนที่จะนำสินค้าสู่ตลาดได้ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายของบริษัท Repsol และมูลนิธิ Fundación Repsol อีกด้วย 

สตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับเงินทุน 60,000-120,000 ยูโรจากมูลนิธิ ฯ เป็นระยะเวลา 1 ปีและสามารถขอต่อระยะเวลารับเงินทุนได้อีก 1 ปี โดยจะได้รับคำแนะนำ การสนับสนุนทางเทคโนโลยีการตลาดจากคณะผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Repsol และสามารถใช้สถานที่และเครื่องมือของบริษัท Repsol ในการพัฒนาและทดสอบโครงการอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับเงินทุนไม่จำเป็นต้องย้ายถิ่นมาพำนักอาศัยในกรุงมาดริด แต่ทางมูลนิธิ ฯ อาจขอให้มาเข้าร่วมงานหรือการประชุมเป็นครั้งคราว

ในแต่ละปีมูลนิธิ ฯ จะคัดเลือกสตาร์ทอัพ 6-8 รายเข้าร่วมโครงการ ซึ่งในรอบ 8 ปีที่ผ่านมามูลนิธิ ฯ ได้ให้เงินทุนสนับสนุนแก่บริษัทต่าง ๆ มาแล้ว 54 ราย สตาร์ทอัพไทยรายใดที่เห็นว่ามีคุณสมบัติเข้าข่ายและสนใจเข้าร่วมโครงการดี ๆ แบบนี้ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิ Fundación Repsol https://www.fundacionrepsol.com/en/talent-development/entrepreneurs-fund

อย่าช้าเพราะหมดเหตุรับสมัคร 4 มีนาคม ศกนี้!!!

 

ที่มาของภาพ

https://www.fundacionrepsol.com/en