เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 สื่อท้องถิ่นสเปนได้รายงานข่าวเกี่ยวกับบริษัท Acciona Energía ของสเปนได้รับการพิจารณาอนุมัติให้เข้ามาลงทุนโครงการพลังงานลมในประเทศไทย สรุปข้อมูล ดังนี้

บริษัท Acciona Energía ร่วมกับบริษัทย่อย คือ The Blue Circle (บริษัทผลิตและจำหน่ายพลังงานทดแทนสัญชาติสิงคโปร์ซึ่ง Acciona Energía ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 49.9) ได้รับการอนุมัติโครงการสัญญาจัดหาพลังงานสะอาดระยะยาว (Power Purchase Agreement - PPA) จาก สนง. คกก. กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ผ่านการประกวดราคาโครงการจัดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลม 5 แห่งในประเทศไทย โดยมีกำลังผลิตรวม 436 เมกะวัตต์ (MW)

โรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกของบริษัทฯ มีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 2567 และกำหนดเริ่มผลิตไฟฟ้าระหว่างปี 2569 ถึง 2573 โดยโรงไฟฟ้าพลังงานลม 4 แห่งจะจัดตั้งขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ และโรงงานที่ 5 จะจัดตั้งที่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งนี้ ศักยภาพการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดต่อปีจะสูงถึง 1,141 GWh/ปี โดยบริษัทฯ ประเมินว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนกว่า 645,000 ตันต่อปี และเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์ 250,000 คัน หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 19 ล้านต้น

ไฟฟ้าที่ผลิตจะถูกรับซื้อโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยสัญญากับ Acciona Energíaดังกล่าวมีระยะเวลา 25 ปี และถือเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไทย ที่กำหนดเป้าหมายให้ไทยสามารถพัฒนาพลังงานทดแทนให้เป็นพลังงานหลักสัดส่วนร้อยละ 30 ภายในปี 2580

ทั้งนี้ บริษัท Acciona Energía เข้ามาซื้อหุ้นกิจการ The Blue Circle เมื่อเดือนกันยายน 2565 โดยใช้งบประมาณกว่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำหนดจะสมทบงบประมาณอีกกว่า 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการลงทุนโครงการใหม่ ๆ โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงเชิงกลยุทธ์เพื่อร่วมกันพัฒนา ก่อสร้าง และดำเนินธุรกิจโรงงานพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย The Blue Circle มีโรงงานผลิตพลังงานทดแทน 84 MGW ในเวียดนาม ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2560 และมีท่อส่งกำลังไฟฟ้ารวม 3.8 GW ในไทย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และศรีลังกา และมีสำนักงานในสิงคโปร์ นครโฮจิมินห์ กรุงเทพฯ กรุงพนมเปญ และกรุงมะนิลา

อนึ่ง ถือเป็นก้าวกระโดดและความสำเร็จสำคัญของ Acciona Energía สู่ตลาดเอเชีย และเป็นการก้าวสู่ตลาดพลังงานในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ โดย Acciona Energía เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนลำดับต้น ๆ ของสเปนด้านการผลิตพลังงานทดแทน ทั้งนี้ ในภาพรวมสะท้อนศักยภาพและเทคโนโลยีในการผลิตพลังงานทดแทนที่สเปนมีความเชี่ยวชาญ โดยมีการผลักดันสำคัญจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งภายในประเทศสเปนเองตั้งเป้าหมายจะใช้พลังงานทดแทนเป็นพลังงานหลักสัดส่วนร้อยละ 43 ภายในปี ค.ศ. 2030 และร้อยละ 97 ภายในปี ค.ศ. 2050