ตามที่เมื่อเดือนมีนาคม 2564 ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้เคยเผยแพร่บทความเรื่อง “การพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพของสเปน” ให้ผู้อ่านได้รับทราบไปแล้วนั้น วันนี้ศูนย์ฯ จะขอพาผู้อ่านไปติดตามอัพเดทสถานการณ์ของวงการสตาร์ทอัพในสเปน กันอีกครั้ง

จากบทความเรื่อง Global Countries Ranking of Startup Ecosystem ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ StartupBlink ระบุว่า เมื่อ 2564 ที่ผ่านมา สเปนได้รับการจัดให้เป็นประเทศที่มีระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพดีที่สุดในอันดับ 15 ของโลก (ลดลง 6 อันดับจากเมื่อปี 2563) โดยนครบาร์เซโลนาและกรุงมาดริดถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีระบบนิเวศน์ฯ ดีที่สุดในอันดับ 37 และ 45 ของโลก ตามลำดับ (จากเดิมปี ค.ศ. 2020 เมืองทั้งสองอยู่ในอันดับ 27 และ 35 ของโลก)

ขณะที่รายงานของศูนย์สังเกตการณ์สตาร์ทอัพสเปน ภายใต้มูลนิธินวัตกรรรมของธนาคาร Bankinter (Observatorio de Startups de la Fundacion Innovacion Bankinter) ให้ข้อมูลว่า เมื่อปี 2564 สตาร์ทอัพของสเปนมีเงินลงทุนรวมกันประมาณ 4,300 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นร้อยละ 287 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 ซึ่งนับเป็นมูลค่าเงินลงทุนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมองในแง่การลงทุนตามภูมิศาสตร์แล้ว จะพบว่ากรุงมาดริดเป็นเมืองที่สามารถดึงดูดการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพได้มากที่สุด (2,487 ล้านยูโร) ของประเทศและนับเป็นครั้งแรกที่เมืองหลวงแห่งนี้ได้รับเงินลงทุนด้านสตาร์ทอัพมากกว่านครบาร์เซโลนา (1,510 ล้านยูโร)

สำหรับสาขาธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีการลงทุนสูงที่สุดในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้แก่ สาขา Business & Productivity[1] และ Real Estate & Proptech ตามด้วยสาขาที่เคยเป็นผู้นำในการลงทุนอย่างการขนส่งและโลจิสติกส์ และ Fintech/Insurtech  โดยบริษัทสตาร์ทอัพที่มีเงินลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรกในสเปน ได้แก่ 1) Glovo ในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์ มีการลงทุนมูลค่า 450 ล้านยูโร (สูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า จากปีก่อนหน้า) 2) Jobandtalent ในสาขา Business & Productivity  มีการลงทุนมูลค่า 440 ล้านยูโร และ 3) Idealista  ในสาขา Real Estate & Proptech ที่มีการลงทุนมูลค่า 250 ล้านยูโร  

นิตยสารสตาร์ทอัพและนวัตกรรมสเปน ElReferente ระบุว่า ปัจจุบัน สเปนมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น 9 รายที่มีมูลค่าธุรกิจสูงกว่า 1,000 ล้านยูโร โดยเรียงลำดับมูลค่าการลงทุนจากมากไปน้อย ได้แก่ Glovo, Jobandtalent , eDreams (สาขาการท่องเที่ยว) , Wallbox (สาขาการขนส่งและโลจิสติกส์), Cabify (สาขาการขนส่งและโลจิสติกส์) , Idealista , Devo (สาขาความมั่นคงทางไซเบอร์), Travelperk สาขาการท่องเที่ยว) และ Flywire (สาขา FinTech/InsurTech) อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดการณ์กันว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าสเปนจะมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเพิ่มอีก 20 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในสาขา Fintech/InsurTech ซอฟต์แวร์ การขนส่งและโลจิสติกส์ และ Real Estate & Proptech

สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นในสเปนจนถึงปี ค.ศ. 2022 และว่าที่สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น (ปี ค.ศ. 2022-2023)

ที่มาของภาพ ElReferente

นโยบายและการดำเนินการของรัฐบาลสเปนเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพ

เมื่อปี 2564 รัฐบาลสเปนได้ประกาศใช้ยุทธศาสตร์ผู้ประกอบการแห่งชาติ (Estrategia España Nación Emprendedora) เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนของผู้ประกอบการในด้านนวัตกรรม และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในธุรกิจสตาร์ทอัพให้เพิ่มมากขึ้น ภายในปี 2573 (ค.ศ.2030) โดยมีเป้าหมายประกอบด้วย 1) การเร่งให้เกิดการลงทุนในสเปน 2) การขับเคลื่อนให้สเปนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยบุคลากรทักษะสูง และดึงดูดให้บุคลากรทักษะสูงจากต่างชาติเข้ามาทำงาน 3) การส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศ และ 4) การเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการของภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนการพัฒนาด้านนวัตกรรม

ล่าสุด ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวา คณะรัฐมนตรีสเปนได้ผ่านร่างกฎหมายส่งเสริมระบบนิเวศบริษัทเกิดใหม่ หรือกฎหมายสตาร์ทอัพ ไปเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและมีผลบังคับใช้ได้ในช่วงกลางปีนี้ จะมีเนื้อหาครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวกับพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพ อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านภาษี การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การอำนวยความสะดวกด้านการเข้าเมือง และการขอบัตรประจำตัวให้แก่นักลงทุน/ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติในธุรกิจสตาร์ทอัพในสเปน เป็นต้น

โครงการ “Rising UP in Spain”

ไม่เพียงแต่จะมีมาตรการและเงินทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพสัญชาติสเปนเท่านั้น แต่รัฐบาลสเปนยังได้ดำเนินโครงการ “Rising UP in Spain” เพื่อดึงดูดให้สตาร์ทอัพต่างชาติเข้ามาจัดตั้งและดำเนินธุรกิจในสเปน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพท้องถิ่นด้วย โดยมี ICEX Spain (หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนในสเปน) ทำหน้าที่ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2559 โดยสตาร์ทอัพต่างชาติที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการช่วยเหลือในการสรรหาพันธมิตรท้องถิ่น และสิทธิประโยชน์สำหรับการประกอบกิจการ  อาทิ คำแนะนำด้านกฎหมาย การเข้าถึงเครือข่ายเงินทุนในสเปน การอำนวยความสะดวกด้านการเข้าเมือง เป็นต้น

 ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีสตาร์ทอัพต่างชาติที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,400 ราย จาก 90 ประเทศทั่วโลก และมีธุรกิจที่ได้รับคัดเลือกจำนวน 70 ราย โดยขณะนี้ ทาง ICEX Spain มีแผนที่จะเปิดรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ Rising UP in Spain รอบที่ 6 อีกในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.investinspain.org/risingup

ติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่ https://bic-madrid.thaiembassy.org

[1] ในสาขาธุรกิจนี้รวมถึงบริษัทที่เน้นการให้บริการแก่บริษัทอื่น ๆ โดยมักจะเป็นการให้บริการระบบซอฟต์แวร์ Software as a Service (SaaS)