วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ส.ค. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565
วันนี้ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปนจะมานำเสนออีกช่องทางหนึ่งสำหรับการส่งออกสินค้าไทยผ่านท่าเรืออูเอลบา (Port of Huelva) ทางตอนใต้ของสเปน หลังจากที่เราได้นำเสนอบทความเกี่ยวกับท่าเรืออัลเฆซีราส ซึ่งเป็นท่าเรือสำคัญทางตอนใต้ของสเปนเช่นกันไปก่อนหน้านี้
ท่าเรืออูเอลบา
ท่าเรืออูเอลบาเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ตั้งอยู่ในจังหวัดอูเอลบา[1] ของแคว้นอันดาลูเซียซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน ถือได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ของเส้นทางการค้าระหว่างยุโรปใต้กับยุโรปเหนือ แอฟริกา อเมริกา รวมทั้งกับหมู่เกาะแคนารีของสเปน โดยเป็นจุดเชื่อมต่อเส้นทางการเดินเรือและการค้าระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับมหาสมุทรแอตแลนติกอีกด้วย
เมื่อปี 2561 ท่าเรืออูเอลบาเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่ 6 ของสเปน อันดับที่ 2 ของแคว้นอันดาลูเซีย (รองจากท่าเรืออัลเฆซีราส) และอันดับที่ 29 ของยุโรป ด้วยปริมาณการขนส่งรวม 33 ล้านตัน และหากมองจากอัตราการเจริญเติบโตของท่าเรือแห่งดังกล่าวแล้ว เมื่อปี 2562 ท่าเรืออูเอลบา เป็นท่าเรืออันดับ 2 ที่มีการเติบโตสูงสุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับท่าเรือ 30 อันดับแรกของยุโรป โดยมีอัตราขยายตัวถึงร้อยละ 56 เลยทีเดียว
ในแง่ของพื้นที่ ท่าเรืออูเอลบาแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,700 เฮคเตอร์และมีความยาวทั้งสิ้น 15 กิโลเมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วน ได้แก่ 1) พื้นที่ท่าเรือและเมือง 2) พื้นที่การขนส่งหลายวิธี (Intermodal transportation) 3) พื้นที่อุตสาหกรรม 4) พื้นที่สินค้าแห้ง 5) พื้นที่สินค้าเหลว และ 6) พื้นที่สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ สินค้าทั่วไปและการขนส่งทางรถไฟ
ท่าเรืออูเอลบา
เส้นทางการเชื่อมต่อระหว่างท่าเรืออูเอลบากับภูมิภาคต่าง ๆ
การแบ่งพื้นที่ในท่าเรืออูเอลบา
แม้ว่าอุตสาหกรรมหลักของท่าเรือแห่งนี้คือการขนส่งสินค้าสินค้าเหลว (liquid bulk cargo) อาทิ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ LNG น้ำมันพืช และสินค้าแห้ง (dry bulk cargo) อาทิ ถ่านหิน ธัญพืช แต่การท่าเรืออูเอลบามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการขนส่งสินค้าที่หลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้นผ่านกลยุทธ์การขนส่งหลายวิธี (Intermodal strategy) ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานที่จะครอบคลุมการขยายพื้นที่ Southern quay ของท่าเรือสำหรับการขนส่งสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์ (กว่า 2.9 แสนตารางเมตรภายในปี 2563) การขนส่งสินค้าทั่วไปและผู้โดยสาร รวมไปถึงการลงทุนก่อสร้างและดำเนินงานศูนย์ฮับโลจิสติกส์ความเย็น เป็นต้น
ด้วยอัตราการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับการมีพื้นที่ที่มีศักยภาพการพัฒนาสูงทำให้ท่าเรือมุ่งที่จะลงทุนขยายท่าเรือเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของ Southern quay ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น โดยท่าเรือยังเป็นเจ้าของ พื้นที่ที่พร้อมสำหรับรองรับการขยายตัวของท่าเรือในอนาคตอีกกว่า 3 แสนตารางเมตรเลยทีเดียว
จุดเด่นของท่าเรืออูเอลบาอยู่ที่ไหน?
ในเชิงโลจิสติกส์ ท่าเรืออูเอลบามีจุดแข็งด้านการขนส่งทางรถไฟซึ่งดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับท่าเรืออื่นในสเปน เพราะมีทางรถไฟภายในท่าเรือกว่า 43 กิโลเมตร และมีเส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับ Trans-European Transport Networks (TENT-T) ซึ่งเป็นนโยบายของคณะกรรมาธิการยุโรปที่จะพัฒนาเส้นทางการคมนาคมเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศสำหรับขนส่งผู้โดยสารและสินค้าภายในทวีปยุโรปอีกด้วย นอกจากนี้ ท่าเรืออูเอลบายังมีท่าเรือบก (dry port) เป็นของตนเอง คือท่าเรือบก Majarabique ในจังหวัดเซบีญา ทำให้มีการเชื่อมต่อทางบกสำหรับการขนส่งสินค้าที่ดีกับจังหวัดอื่นของสเปน รวมทั้งดินแดนหลังท่า (Hinterland) ทั้งในจังหวัดเซบีญาและประเทศโปรตุเกส
การเชื่อมโยงภาคพื้นดินของท่าเรืออูเอลบา
ไม่เพียงจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง โครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงที่ดี แต่ความพิเศษของท่าเรือแห่งนี้อีกประเด็นคือ ท่าเรืออูเอลบาเป็นท่าเรือที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาล ด้านการขนส่งโลจิสติกส์และคลังสินค้าจาก Halal Food & Quality (สำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองบาเลนเซีย)[2] เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 เนื่องจากการที่ท่าเรือแห่งนี้ ตั้งอยู่ในภูมิภาคอันดาลูเซีย ศูนย์กลางของการค้าระหว่างสเปนกับแอฟริกาและตะวันออกกลาง ทำให้ผู้บริหารท่าเรือตระหนักดีถึงศักยภาพของตลาดฮาลาล จึงได้ตัดสินใจที่จะขอใบรับรองมาตรฐานฮาลาล เพื่อให้การขนส่งสินค้าฮาลาลถึงมือผู้บริโภคตามหลักศาสนาที่ถูกต้อง
ตั้งแต่ได้รับใบรับรองมาตรฐานฮาลาลมา การท่าเรืออูเอลบาก็ได้เชิญชวนให้บริษัทต่าง ๆ ที่ใช้บริการท่าเรือ ขอรับใบรับรองมาตรฐานฮาลาล เพื่อพัฒนาด้านบริการสินค้าฮาลาลของท่าเรือให้ถูกต้องตามมาตรฐานฮาลาลทุกขั้นตอนตลอด supply chain ส่งเสริมการขยายกลุ่มสินค้าฮาลาลสำหรับตลาดมุสลิม เพื่อตอบรับกับศักยภาพและโอกาสของธุรกิจฮาลาลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันมีบริษัทต่าง ๆ ที่ประกอบการในท่าเรือได้รับใบรองมาตรฐานฮาลาลจากสถาบันต่าง ๆ แล้ว อาทิ บริษัท LIPSA (บริษัทจำหน่ายน้ำมันและไบโอดีเซล) ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาลแล้วจาก Halal Certification Services (สวิตเซอร์แลนด์) และบริษัท DECAL (บริษัทจัดเก็บไบโอดีเซลและน้ำมันพืช) ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลธุรกิจด้านการจัดเก็บน้ำมันพืชจากสถาบันฮาลาลเมืองกอร์โดบา (สเปน)
อนึ่ง บริษัท YILPORT Holding จากตุรกี (บริษัทผู้จัดการตู้คอนเทนเนอร์สินค้าภายในท่าเรือ) กำลังอยู่ในกระบวนการขอรับการรับรองมาตรฐานฮาลาล ซึ่งก็จะทำให้จะช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคชาวมุสลิมมีความมั่นใจในสินค้าที่ผ่านเข้าออกท่าเรืออูเอลบามากยิ่งขึ้น
สินค้าไทยก็มีผ่านเข้าออกจากท่าเรือแห่งนี้เช่นกัน โดยเป็นสินค้าเคมีภัณฑ์ ซึ่งยังมีมูลค่าไม่สูงมากนัก แต่การท่าเรืออูเอลบาก็เห็นความสำคัญและเชื่อว่า ท่าเรือของตนมีความพร้อมที่จะเป็นประตูทางผ่านของสินค้าไทยไปยังมือผู้บริโภคชาวสเปนได้ในวงกว้าง จึงต้องการชักชวนให้นักธุรกิจไทยลองหันมามองศักยภาพของท่าเรือแห่งนี้ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องการเชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยที่สนใจ เข้าไปลงทุนพัฒนาธุรกิจภายในพื้นที่ของท่าเรืออูเอลบาอีกด้วย เนื่องจากท่าเรือแห่งนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก การคมนาคมและการเชื่อมของท่าเรือที่ต่อเอื้อต่อการขนส่งสินค้า กอปรกับการมีเงื่อนไขการลงทุนที่น่าสนใจ อาทิ สัมปทาน 50 ปีและมีอัตราค่าพื้นที่ในราคาที่แข่งขันได้ (3.4-4.7 ยูโร/ตารางเมตร/ปี) จึงเรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่น่าสนใจไม่น้อย
หากผู้ประกอบการสนใจทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่าเรือแห่งนี้ สามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่อีเมล์ [email protected] หรือติดตามข่าวสาร สาระดี ๆ เกร็ดความรู้เกี่ยวกับสเปนได้ที่ http://www.thaiembassy.org/bic.madrid/
[1] อูเอลบา (Huelva) เป็นจังหวัดหนึ่งในแคว้นอันดาลูเซีย มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายด้านจาก 1) อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก โดยในอดีตเป็นแหล่งเหมืองแร่ซึ่งนักธุรกิจอังกฤษเข้ามาธุรกิจตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และปัจจุบันมีอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเลียมด้วย 2) การประมงซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจดั้งเดิมที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวจังหวัดอูเอลบามาหลายชั่วคน 3) การท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นเมืองชายทะเล และมีประวัติศาสตร์ของการที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสพร้อมด้วยเรือ 3 ลำชื่อเรือ La Santa María (เรือที่โคลัมบัสใช้เดินทาง) เรือ La Pinta และ เรือ La Niña เดินทางออกจากท่าเรือ Puerto de Palos de la Frontera เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1492 และได้ไปค้นพบโลกใหม่
[2] ปัจจุบันสเปนมีท่าเรือที่ได้รับมาตรฐานฮาลาล 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรืออูเอลบา ซึ่งได้รับรองมาตรฐานจาก Halal Food & Quality (เมืองบาเลนเซีย) เมื่อมีนาคม 2560 และท่าเรืออัลเฆซีราส ที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลจากสถาบันฮาลาลเมืองกอร์โดบาเมื่อเดือนเมษายน 2561
ที่มาของภาพ
16 สิงหาคม 2562