กระแสวีแกนกำลังร้อนแรงไปทั่วโลก ในสเปนเองก็ไม่แพ้กัน บริษัทให้คำปรึกษา Lantern เปิดเผยข้อมูลล่าสุดใน The Green Revolution ว่าในปี ค.ศ. 2019 มีผู้ที่เป็นมังสวิรัติในสเปนเกือบ 4 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 9.9 ของประชากรในประเทศ (สถิติปี 2560 ร้อยละ 7.8) ประกอบด้วยผู้บริโภคมังสวิรัติแบบยืดหยุ่นร้อยละ 7.9 กลุ่มผู้บริโภคมังสวิรัติร้อยละ 1.5 และกลุ่มผู้บริโภควีแกนร้อยละ 0.5 ปัจจัยนี้เองที่ทำให้ภาคธุรกิจและร้านอาหารในสเปนต่างขานรับต่อความต้องบริการบริโภคอาหารมังสวิรัติและวีแกน รวมทั้งใช้โอกาสนี้สร้างและขยายโอกาสทางธุรกิจ สเปนเป็นประเทศอันดับ 5 ของโลกที่มีการเปิดตัวสินค้ามังวิรัติและวีแกนมากที่สุดในโลก (ร้อยละ 4) รองจากเยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐ ฯ และฝรั่งเศส โดยมีสินค้าที่ผลิตในสเปนจำนวน 2,500 รายการที่ได้รับเครื่องหมาย V-Label

หนึ่งในบริษัทอาหารวีแกนที่ออกมาตอบรับกระแสนี้คือบริษัท Foods for Tomorrow สตาร์ทอัพเทคโนโลยีอาหารจากนครบาร์เซโลนา เจ้าของสินค้าเนื้อวีแกน “แบรนด์ Heura®”

Heura ถือกำเนิดขึ้นเมื่อต้นปี ค.ศ. 2017 ที่นครบาร์เซโลนา โดยนาย Marc Coloma ผู้ก่อตั้งบริษัท Foods for Tomorrow ภายใต้แนวคิดที่ว่าทำจะอย่างไรเพื่อให้ผู้คนสามารถรับประทานโปรตีนที่รักษ์โลก มีคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติอร่อยได้ “Save the world, eat Heura” เป็นสโลแกนแบรนด์ที่เชิญชวนให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการผลิตและการรับประทานอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยสินค้า Heura ใช้น้ำในการผลิตน้อยกว่าการผลิตเนื้อวัวถึงร้อยละ 94 สร้างก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์หลายเท่าตัว เป็นต้น

ก่อตั้งบริษัทได้แค่ปีเดียว Foods for Tomorrow ก็ยกระดับตนเองก้าวไปอยู่แถวหน้าของวงการอาหารสเปนแล้ว ปี ค.ศ. 2018 บริษัท ฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศ Culinary Action Startup Prizes (รางวัลสุดยอดนวัตกรรมอาหาร) จากสถาบัน Basque Culinary Center ซึ่งเป็นสถาบันด้านการปรุงอาหารชื่อนำของโลกตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ทางตอนเหนือของสเปน

จุดเด่นของ Heura คืออะไร???

สินค้าทุกตัวทำมาจากพืช 100% โดยเฉพาะจากถั่วเหลือง มีรสชาติและเนื้อสัมผัสเหมือนกับเนื้อสัตว์จริง ๆ จนแยกไม่ออก แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ เนื้อไก่เทียม เนื้อวัวเทียมและอาหารพร้อมรับประทาน มีหลากรสชาติและรูปแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็นไก่รสเผ็ด ไก่รสเมดิเตอร์เรเนียน ลูกชิ้นเนื้อวัว แฮมเบอร์เกอร์เนื้อวัว และพิซซ่า ผู้บริโภคสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายแบบไม่จำเจทั้งปิ้ง ย่าง ทอด ผัด และที่สำคัญไปกว่านั้นคืออุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการเพราะมีโปรตีนสูงกว่าไข่ไก่ 2 เท่า ธาตุเหล็กมากกว่าผักโขมหนึ่งจาน 4 เท่าและมีไฟเบอร์สูงกว่าเต้าหู้ถึง 6 เท่า!!!

สินค้าของ Heura วางจำหน่ายทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เกตชั้นนำ เช่น Carrefour, Eroski, Corte Inglés, Bon Preu และ La Sirena นอกจากนี้ Heura ยังได้เข้าไปขยายพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจร้านอาหารสเปนแล้ว เพราะเชฟชื่อดังของสเปนหลายคนก็หันไปใช้ Heura เป็นวัตถุดิบเตรียมอาหารสำหรับลูกค้ามังสวิรัติที่แวะมาที่ร้าน

เนื้อไก่รสเมดิเตอร์เรเนียน

 

ลูกชิ้นเนื้อวัว

ความน่าสนใจของสินค้า Heura ยังไปเข้าตาของศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม CDTI (Centro para el Desarrollo Tecnológico Industrial) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสเปน ซึ่งเล็งเห็นถึงศักยภาพการแข่งขันของตลาดสินค้าเนื้อวีแกน ประโยชน์ของโปรตีนจากพืชในเชิงความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการ NEOTEC (ทุนสนับสนุนการก่อตั้งและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทเทคโนโลยีที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ของสเปน) จำนวน 2.5 แสนยูโรแก่บริษัท Foods for Tomorrow เจ้าของแบรนด์ Heura เป็นระยะเวลา 2 ปี บริษัท ฯ ออกมาเปิดเผยว่าทุนสนับสนุนจากรัฐจะช่วยเร่งการพัฒนาและขยายการผลิตสินค้าเนื้อวีแกน 100% ให้เข้าถึงผู้บริโภครักษ์โลกได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญได้อรรถรสไม่ต่างจากการบริโภคเนื้อสัตว์

ในด้านผลประกอบการพบว่าธุรกิจนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี ค.ศ. 2018 สร้างรายได้ 6 แสนยูโรและในปี ค.ศ. 2019 เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านยูโรหรือขยายตัวร้อยละ 400 ซึ่งรายได้ครึ่งหนึ่งมาจากร้านอาหารและส่วนที่เหลือมาจากการขายปลีกและการจัดจำหน่าย คาดการณ์กันว่าในปี ค.ศ. 2020 รายได้จะทะลุ 12 ล้านยูโรเลยทีเดียว นอกจากนี้ ใน Social Media แบรนด์ Heura ยังเป็นที่กล่าวถึงอย่างต่อเนื่องและมียอด IG Followers ถึงเกือบ 8 หมื่นคน 

นอกจากตลาดสเปน บริษัท Foods for Tomorrow ได้เข้าไปบุกตลาดอันดอร์รา โปรตุเกส อิตาลี เบลเยียม ชิลี ฮ่องกงและสิงคโปร์แล้ว และมีแผนจะเข้าไปขยายตลาดเนื้อวีแกนอย่างน้อยใน 30 ประเทศภายใน 2 ปีที่จะถึงนี้ รสชาติของเนื้อวีแกน Heura นี้น่าจะถูกปากคนไทยไม่น้อย ถ้าท่านใดสนใจข้อมูลเพิ่มเติมอาจลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.heurafoods.com เพื่อจะเป็นโอกาสธุรกิจใหม่ของท่านได้

ผู้สนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระแสอาหารวีแกนในสเปนได้ที่บทความเรื่อง “เทรนด์อาหารมังสวิรัติและวีแกนในสเปน” ที่ทางศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สังกัดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริดประชาสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้ หรือติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ http://www.thaiembassy.org/bic.madrid/

 

ที่มาของภาพ

• https://www.livekindly.co/spains-government-just-made-its-first-ever-investment-in-vegan-meat/
• https://www.heurafoods.com/index.php