โครงการ H2Med ท่อขนส่งไฮโดรเจนสีเขียวแห่งแรกของอียู

โครงการ H2Med ท่อขนส่งไฮโดรเจนสีเขียวแห่งแรกของอียู

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ธ.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 ธ.ค. 2565

| 924 view

H2Med1

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 นาย Pedro Sánchez นายกรัฐมนตรีสเปน นาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนาย António Costa นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส ซึ่งอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศทางใต้ของสหภาพยุโรป ครั้งที่ 9 หรือ MED-9 ที่สเปน ได้ร่วมกันประกาศความร่วมมือสามฝ่ายในการดำเนินโครงการ ¨H2Med¨ ซึ่งเป็นการก่อสร้างท่อขนส่งไฮโดรเจนสีเขียว จากคาบสมุทรไอบีเรียไปยังยุโรปตอนใน และถือเป็นเส้นทางขนส่งไฮโดรเจนข้ามประเทศเส้นทางแรกของอียูด้วย

ทั้งนี้ ผู้นำของทั้งสามประเทศได้ร่วมกันนำเสนอรายละเอียดโครงการดังกล่าว ณ สำนักงาน EU Intellectual Property Office เมือง Alicante ประเทศสเปน และมีนาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเข้าร่วมด้วย โดยโครงการ H2Med นี้ จะประกอบด้วยการสร้างท่อส่งไฮโดรเจนสีเขียวจากคาบสมุทรไอบีเรียกับเมือง Marseille (ฝรั่งเศส) เป็น 2 ช่วง ได้แก่ 1) เส้นทางโปรตุเกส-สเปน จะเป็นท่อส่งบนพื้นดินจากเมือง Celorico da Beira (โปรตุเกส) ไปยังเมือง Zamora (สเปน) รวมระยะทาง 248 กิโลเมตร และ 2) เส้นทางสเปน- ฝรั่งเศส จะเป็นท่อส่งใต้ทะเลจากนคร Barcelona (สเปน) ไปยังเมือง Marseille (ฝรั่งเศส) รวมระยะทาง 455 กิโลเมตร  ทั้งนี้ จะเริ่มสร้างในปี 2568 กำหนดเสร็จสิ้นเพื่อใช้งานได้ในราวปี 2573 โดยจะใช้งบประมาณทั้งโครงการฯ ราว 2,500 ล้านยูโร ซี่งเมื่อแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถขนส่งไฮโดรเจนสีเขียวได้จำนวน 2 ล้านตัน/ปี หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของการใช้พลังงานไฮโดรเจนทั้งหมดในอียู รวมถึงในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ที่จะขยายการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่น ๆ ของยุโรป ด้วย  

H2Med

นายกรัฐมนตรีสเปนกล่าวว่า โครงการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสเปน โปรตุเกส และฝรั่งเศสภายใต้ข้อริเริมโครงการสร้างระเบียงพลังงานสีเขียว (Green Energy Corridor) เชื่อมคาบสมุทรไอบีเรียและเมือง Marseille ของฝรั่งเศส ที่ทั้งสามฝ่ายได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและความเป็นอิสระในด้านพลังงาน (energy autonomy) จากการพึ่งพาพลังงานภายนอก ตลอดจนสะท้อนความมุ่งมั่นของอียูต่อการส่งเสริมพลังงานสะอาด และการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ด้วย เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เห็นว่า โครงการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญที่ตอบสนองต่อการพัฒนาความร่วมมือของทั้งสามประเทศ ทั้งในด้านการรักษาระบบนิเวศ  การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม และการพึ่งพาพลังงานของตนเอง ขณะที่นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส มองว่า โครงการ H2Med จะช่วยการกระจายแหล่งพลังงานและเพิ่มความเป็นอิสระด้านพลังงานให้แก่อียูในอนาคต สอดคล้องกับทัศนะของประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่แสดงความชื่นชมต่อการเริ่มต้นของโครงการ H2Med ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า นโยบายพลังงานของอียูกำลังได้รับการนำไปปฏิบัติให้ไปเป็นไปในทิศทางที่อียูตั้งเป้าหมายไว้ โดยโครงการดังกล่าวมีศักยภาพที่จะเป็น ´สันหลัง´ ของภูมิภาคยุโรปในการขนส่งไฮโดรเจน และจะทำให้คาบสมุทรไอบีเรียกลายเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานหลักของสหภาพยุโรปในอนาคตด้วย

อนึ่ง รัฐบาลสเปนมีนโยบายที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญของโลก โดยมีไฮโดรเจนสีเขียวเป็นพระเอกใหม่ เพิ่มเติมจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่สเปนมีศักยภาพในการผลิตเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในปัจจุบัน ทั้งนี้ เนื่องจากสเปนมีเทคโนโลยีและ value chain ที่พร้อมสำหรับการพัฒนาไฮโดรเจนสีเขียวจากวัตถุดิบที่มีมากมายในภาคเกษตรกรรม โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2563 รัฐบาลสเปนได้อนุมัติแผน Hydrogen Roadmap: a commitment to renewable hydrogen เพื่อส่งเสริมไฮโดรเจนสีเขียวให้เป็นหนึ่งในพลังงานทดแทนที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี ค.ศ. 2050 ตลอดจนช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 รวมถึงส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศด้วย

ติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่ https://bic-madrid.thaiembassy.org